ศูนย์บริการ ล้างแอร์ ซ่อมแอร์
  Call : 02-897-1225
  ล้างแอร์ 300.- บาท
  ทำไม (^_^) ต้องล้างแอร์
  ล้างแอร์รายปี ประหยัดดี
  ล้างแอร์ ช่วยประหยัดไฟ
  ซ่อมแอร์ ด่วน  
  ซ่อมแอร์ระบบรั่ว
  ซ่อมแอร์ ระบบตัน

  เติมน้ำยาแอร์
  ย้ายแอร์เฉพาะคอยล์เย็น
  ย้ายแอร์เฉพาะคอยล์ร้อน
  ย้ายแอร์เก่าทั้งชุด
  ติดตั้งแอร์ใหม่
  ติดตั้งแอร์เก่า
  ถอดแอร์มาเก็บไว้
  ซ่อมตู้เย็น
  ซ่อมตู้แช่ทุกขนาด
  ซ่อมเครื่องซักผ้า

   คำแนะนำดีดี :
  ล้างแอร์ประหยัดไฟ
  เกร็ดความรู้เรื่องแอร์
  วิธีการเลือกซื้อแอร์
  คำนวนห้องก่อนซื้อแอร์
  แอร์บ้าน ราคาแอร์ 2017
  ขอใบเสนอราคา


LINE ID yensabuyair

ฝ่ายบริการ งานแอร์ ค่ะ


LINE ID @yensabuy

ฝ่ายขาย แอร์บ้าน 2017




    แอร์บ้าน ราคาแอร์ ถูกสุด ๆ

    แอร์ราคาถูก โดนใจ ปี 2017


แอร์ มิต ซู บิ ชิ ราคาพิเศษสุด!
ซื้อวันนี้ ติดตั้งฟรี ! จำนวนจำกัด


    รวมราคาแอร์บ้าน ติดผนัง


    แอร์เคลื่อนที่ แอร์มุ้ง ถูกสุด
ราคา 16,000.- บาท
ราคา 17,000.- บาท

    ทะเบียนพาณิชย์


    เย็นกาย สบายใจ - สุขใจ
พุทธวจน
พลังจิต
ฟังธรรม
เสียงธรรม โจโฉ
ธรรมะใกล้ตัว


ศูนย์บริการ เย็นสบาย เซอร์วิส แอร์ - FAQ (ถาม/ตอบ) - โทร : 02-897-1224-5 , 02-897-1522

บริการให้คำปรึกษา เรื่องเครื่องปรับอากาศ ทุกอาการเสีย โดยช่างผู้ชำนาญงาน ซ่อมแอร์ได้ทุกอาการเสีย งานคุณภาพ ราคาย่อมเยาว์




กลับสู่: หน้าแรกนานาสาระ ->

คำถาม - ที่คุณถาม
  วิธีประหยัดไฟง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ในทุกครัวเรือน

คำตอบ - ที่เราตอบ
 วิธีประหยัดไฟง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ในทุกครัวเรือน

1.) ปิดพัดลมระบายอากาศเมื่อไม่จำเป็น เพราะเมื่อเปิดพัดลมระบายอากาศก็จะการระบายอากาศที่มีความเย็นออกจากห้อง และก็จะมีอากาศภายนอกในปริมาณเท่ากันไหลเข้ามาแทน ซื่งอากาศจากภายนอกที่ไหลเข้าในห้อง จะทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น และถ้าหากเป็นห้องประชุม ในขณะที่เปิดเเอร์ เพื่อให้อากาศเย็นก่อนจะมีคนเข้าใช้ห้อง ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ ให้รอจนมีคนเข้าใช้ห้องประชุมเป็นจำนวนมากก่อน จึงเปิดพัดลมระบายอากาศก็ได้

2.) ตั้งปิดจอคอมพิวเตอร์ เมื่อไม่ได้ใช้งาน เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล1เครื่อง จะปล่อยความร้อนออกมาประมาณ 250 วัตต์ และส่วนใหญ่จะเป็นความร้อนจากจอมอนิเตอร์ประมาณ 180-200 วัตต์ ดังนั้นจึงควรตั้งโปรแกรมให้จอมอนิเตอร์ปิดโดยอัตโนมัติ เมื่อไม่ได้ทำงานสักระยะ

3.) ตั้งอุณหภูมิของแอร์ไว้ที่ 28 องศาเซลเซียส แล้วเปิดพัดลมช่วยจะสามารถประหยัดพลังงานได้มากขึ้น

4.) นำตู้มาตั้งชิดผนังด้านทิศตะวันออกหรือตะวันตก เพราะผนังด้านที่มีความร้อนเข้ามามากที่สุดคือ ด้านทิศตะวันออกและตะวันตก การนำตู้ไปตั้งชิดผนังจะช่วยป้องกันการแผ่รังสีความร้อนจากผนังได้

5.) ปิดแอร์เมื่อไม่ใช้ และอย่าเปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้ในขณะปิดแอร์ เพราะถ้าเปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้จะทำให้ความร้อนและความชื้นจากภายนอกจะเข้าไปในห้องและจะสะสมอยู่บริเวณพื้น ผนัง เฟอร์นิเจอร์ พรม กระดาษ ผ้าม่าน เป็นต้น เมื่อเปิดแอร์ครั้งต่อไปก็จะทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อดึงเอาความร้อนและความชื้นนี้ออกไป ซึ่งจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยเปล่าประโยชน์

6.) ย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ค่าความร้อนที่ไม่จำเป็นออกนอกห้องแอร์ให้หมด เพราะภาระส่วนหนึ่งที่สำคัญของแอร์นั้นเกิดจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในห้องด้วย
ซื่งอุปกรณ์ที่มักมีอยู่ในห้องแอร์แต่ก็สามารถย้ายออกไปตั้งบริเวณอื่นๆได้ เช่น ตู้เย็น ตู้ทำน้ำเย็น เครื่องถ่ายเอกสาร หม้อต้มน้ำร้อน หม้อหุ้งข้าวไฟฟ้า เป็นต้น

7.) ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือหลอดไฟที่ไม่จำเป็น เพราะสิ่งเหล่านี้จะปล่อยความร้อนออกมา ทำให้เป็นภาระของแอร์ที่ต้องทำงานหนัก และต้องเสียพลังงานในการทำความเย็นเพิ่มขึ้น ซื่งจะเห็นได้ว่าการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์แสงสว่างที่ไม่จำเป็นภายในห้องแอร์จะเป็นการเสียค่าไฟสองต่อ เพราะจะต้องเสียค่าไฟอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้และต้องมาเสียค่าไฟของเครื่องปรับอากาศอีก

8.) งดสูบบุหรี่ในห้องแอร์ เพราะถ้ามีการสูบบุหรี่ในห้องแอร์ก็จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ เพื่อระบายควันและกลิ่นออกจากห้อง ซื่งก็จะทำให้อากาศภายนอกใหลเข้ามาทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น และกินกระแสไฟเพิ่มขึ้น และถ้าไม่สูบบุหรี่ภายในห้องแอร์ก็ยังสามารถช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ ทำให้แผงคอยล์ไม่อุดตันง่ายอีกด้วย

9.) สวมใส่เสื้อผ้าบางๆ ใส่สบาย เพราะจะช่วยให้ร่างกายสามารถระบายความร้อนได้ดีขึ้น จึงสามารถตั้งอุณหภูมิของแอร์ให้สูงขึ้นได้

10.) ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด เพราะถ้าหากปิดประตูหรือหน้าต่างไม่สนิทหรือมีรูรั่ว ก็จะทำให้มีอากาศร้อนจากภายนอกรั่วใหลเข้าไปในห้องได้ ซึ่งจะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น และสิ้นเปลืองกระแสไฟฟ้ามากขึ้น

11.) ปิดผ้าม่าน จะสามารถช่วยลดการแผ่รังสีความร้อนจากภายนอกเข้ามาภายในห้องได้ และยังสามารถสะท้อนความร้อนกลับออกไปภายนอกได้ด้วย ซื่งจะเป็นการช่วยประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่ง

[ กลับไปข้างบน ]





การล้างแอร์มันมีทั้งหมดกี่แบบกันแน่ ?

เราขอสรุปให้ทุกท่านเกิดความเข้าใจง่าย ๆ ดังนี้

การล้างแอร์มีด้วยกัน 4 แบบ


1. การล้างย่อยแอร์

หรือ ส่วนที่ 1. การล้างแผ่นกรองฝุ่น เพื่อช่วยให้แอร์มีการถ่ายเทลมได้สะดวกเพราะฝุ่นที่เกาะติดกับแผ่นกรองเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แอร์คุณจะมีอาการแปลก ๆ ตามมาเรื่อย ๆ ควรหมั่นล้างทำความสะอาดแอร์ด้วยตัวเองได้ นำแผ่นกรองฝุ่นออกมาล้าง ซัก 1-2 อาทิตย์ ล้างซักครั้ง จะช่วยคุณประหยัดค่าไฟฟ้าไปโดยไม่รู้ตัวเลยหล่ะ ส่วนที่ 2. ล้างคอนเดนซิ่งแอร์ (แอร์ตัวนอก) เจ้าตัวนี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นตัวที่ต้องดูดความร้อนออกมาจากภายในห้อง และนำมาทิ้งออกข้างนอกผ่านตัวคอนเดนซิ่ง ถ้าเจ้าตัวคอยล์ร้อนด้านนอก สกปรกมากจนทำให้การระบายความร้อนของแอร์ไม่ดี หรือ ดีไม่เท่าที่ควร สิ่งที่ตามมาจะจุ๊กจิก มาก ๆ เช่น ใช้งานแอร์อยู่ เดี๋ยวเย็น เดี๋ยวไม่เย็น บางทีก็ไม่เย็นไปซะดื้อ ๆ ทิ้งไว้ซักพัก ก็กลับมาเย็น แต่ก็เย็นได้พักเดียวก็ไม่เย็นอีกแล้ว



2. การล้างแอร์ด้วยน้ำแรงดันสูง

คือ การฉีดล้างทำความสะอาดตัวคอลย์เย็นด้านใน ด้วยปั้มน้ำแรงดันสูง ล้างฟิวเตอร์ ล้างอุปกรณ์ของแอร์ทุกชิ้นที่สามารถล้างได้ และทำการเป่า หรือ ผึ่งไว้ให้แห้ง เพื่อรอนำมาประกอบใส่เมื่อทำการล้างแอร์ทุกชิ้นส่วนเรียบร้อย ทำการล้างทำความสะอาดคอนเดนซิ่ง (แอร์ตัวนอก) ด้วยปั้มน้ำแรงดันสูง ขั้นตอนการล้างแอร์ แอร์คอยล์เย็นตัวที่อยู่ด้านในห้อง ให้ทำการถอดหน้ากาก และอุปกรณ์ ต่าง ๆ ออกมาให้เหลือ แต่แฟนคอยล์ เพื่อเตรียมทำการล้างแฟนด์คอยล์ด้วยปั้มน้ำแรงดันสูง โดยใช้ผ้าคลุมล้างตัวแอร์ด้านใน เพื่อทำการฉีดน้ำแรงดันสูง ล้างทำความสะอาดแผงฟิลคอยล์ เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกที่เกาะติดอยู่ตามรังผึ้งแอร์ ฉีดล้างโบว์หางกระรอก ตัวสีดำด้านในตัวแอร์ เจ้าตัวนี้ก็จะมีฝุ่นจับอยู่ตามซี่ของใบพัด ต้องทำการฉีดน้ำแรงดันสูง ล้างทำความสะอาดให้หมดจด เพราะจะทำให้การกวักลมมีความสม่ำเสมอและไม่มีเสียงรบกวนเวลาแอร์ทำงาน



3. การล้างแอร์โดยใช้น้ำยาล้างคอยล์แอร์

เพื่อช่วยกัดเซาะสิ่งสกปรกที่ติดฝังแน่น อยู่ในแผงรังผึ้งแอร์ ตัวคอยล์เย็น หรือ คอยล์ร้อน เนื่องจากใช้ปั้มฉีดน้ำแรงดันสูงก็ยังไม่สามารถทำให้สิ่งสกปรกที่เกาะอยู่หลุดออกไปจนหมดได้ ช่างแอร์จึงมีความจำเป็นที่ต้องใช้น้ำยาล้างคอยล์แอร์มาช่วย กัดเซาะสิ่งสกปรกที่ฝังแน่นติดอยู่ในรังผึ้งของแอร์ เทราดไปในแผงรังผึ้งแอร์ ทิ้งระยะเวลาไว้ซัก 10-15 นาที เพื่อให้น้ำยาล้างคอยล์แอร์ ทำความสะอาดกัดเซาะสิ่งสกปรกที่ติดฝังแน่นอยู่นาน หลุดร่อนออกมา แล้วจึงใช้ปั้มน้ำแรงดันสูง จัดการฉีดล้างทำความสะอาดเครื่องแอร์อีกครั้ง จนแผงคอยล์แอร์ขาวใหม่ดูสะอาดเหมือนแอร์เพิ่งซื้อมาติดใหม่ เมื่อล้างแอร์เสร็จแล้ว ช่างก็ทำการประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ถอดมาเข้าที่เดิม แค่นี้ ก็เป็นอันจบกระบวนการ



4. การตัดแอร์ออกมาล้างนอกสถานที่

เป็นการล้างแอร์ที่เรียกว่าขั้นสูงสุด สุดท้าย จริง ๆ จะทำในกรณีที่แอร์คุณใช้มานาน 3-5 ปี จนแอร์เกินอาการไม่ปกติหลาย ๆ อย่าง เช่น มีเสียงดังให้น่ารำคาญตลอด กำลังลมที่ออกมาจากตัวแอร์ไม่กระจายออกเต็มกำลัง เหมือนอั้นอยู่ในตัวแอร์ แอร์เปิดแล้วมีกลิ่นอัปชื้นตลอดเวลา แอร์มีกลิ่นเหม็นเป็นบางที แอร์ไม่ค่อยเย็น เปิดไว้นานกว่าจะเย็น แอร์เย็นบ้างไม่เย็นบ้าง แอร์เย็นไม่ฉ่ำ แอร์เย็นชืดชืด รู้สึกเหนียวตัวไม่สดชื่น แอร์กินไฟอย่างมาก เพราะค่าไฟขึ้นหากเราไม่ได้สังเกตุ และ สุดท้ายจะทำให้ แอร์ไม่เย็นเลย อาการดังกล่าวที่กล่าวมาข้างต้น ต้องแก้ไขด้วยการตัดแอร์ออกมาจากห้องที่ติดตั้งอยู่ และนำมาแกะชิ้นส่วนออกเป็นชิ้น ๆ จะว่าไปก็คือ แกะทุกชิ้นส่วนของแอร์ให้เหลือแต่รังผึ้งแอร์เลยทีเดียว และน้ำมาแช่น้ำยาล้างคอยล์ ทิ้งไว้ซักระยะหนึ่ง เพื่อให้น้ำยาล้างคอยล์ ทำการกัดเซาะคราบสกปรกฝังแน่นอยู่นานนับปีออกให้หมด หลังจากนั้น จึงใช้ปั้มน้ำแรงดันสูง จัดการฉีดล้างทำความสะอาดรังผึ้งแอร์อีกครั้ง จนแผงคอยล์แอร์ขาวใหม่ดูสะอาดเหมือนแอร์เพิ่งซื้อมาติดใหม่ เมื่อล้างรังผึ้งแอร์เสร็จแล้ว ช่างก็ทำการประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ถอดมาทุกชิ้นเข้าที่เดิม เพื่อรอนำไปติดตั้งในตำแหน่งที่ถอดมา พร้อมทั้งทำการล้างระบบความเย็น แว๊กคั่มระบบ และเติมน้ำยาแอร์ใหม่เต็มระบบ แอร์คุณก็จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และนำความเย็นออกมาได้เต็มพลังเหมือนแอร์ใหม่ยังไงอย่างนั้น แค่นี้ ก็เป็นอันจบกระบวนการ




Copyright ©2018 All Rights Reserved. | ล้างแอร์.com | 02-897-1224-5 | 02-897-1522 | Hotline 24 Hr : 089-166-8765
เย็นสบาย เซอร์วิส แอร์ ได้จดทะเบียนพาณิชย์ ตามพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ.2499 กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
สำนักงานกลางทะเบียนพาณิชย์ ใบทะเบียนพาณิชย์ เลขที่ 3102201191054

สงวนลิขสิทธิ์ © - ทีมงาน เย็นสบาย เซอร์วิส แอร์